โปรตีนทั้ง 2 ชนิดของเส้นไหมจึงมีความสำคัญ และสามารถนำมาใช้ประโยชน์มากมาย จากการวิจัยของนักวิชาการกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่า ผงไหม (พันธุ์ไทย) มีคุณสมบัติที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ โดยมีส่วนประกอบสำคัญคือ โปรตีนคุณภาพสูง ที่มีกรดอะมิโนมากถึง 18 ชนิด (ทั้ง 18 ชนิดนี้เป็นโปรตีนชนิดเดียวกันกับที่พบในมนุษย์) จึงช่วยเพิ่มสารอาหารให้เซลล์ที่สร้าง “คอลลาเจน” และ “อีลาสติน” ซึ่งทั้งคอลลาเจน และ อีลาสตินมีบทบาทสำคัญทำให้ผิวพรรณเต่งตึง ยืดหยุ่น และมีความชุ่มชื้น โดยเมื่อเราถึงอายุ 20 ปี จะสูญเสียคอลลาเจน ทุก ๆ ปี ปีละ 1% และเมื่ออายุมากขึ้นคือประมาณ 25 ปีขึ้นไป คอลลาเจนในร่างกายจะสูญสลายไปมากกว่าที่มันได้ผลิตขึ้นมา ซึ่งเมื่อเราขาดคอลลาเจน ผลเสียที่ตามมา คือ ทำให้ผิวเกิดริ้วรอย เหี่ยวย่น หยาบกระด้าง และไม่ยืดหยุ่น ดังนั้นเมื่อเราใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบจากโปรตีนไหม ก็จะเหมือนการเติมอาหารให้กับเซลล์ผิวหนัง 
ซึ่งประโยชน์ของโปรตีนไหมพอสรุปได้เป็นข้อๆ ดังนี้*

​

• มีสารช่วยดูดซับความชื้นในอากาศ สามารถซึมเข้าสู่เซลล์ผิวหน้าได้ทันที
• มีสารช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคผิวหนัง ลดการอักเสบของผิวพรรณ
• ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ลดการเกิดเม็ดสี
• ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม สดใส เปล่งปลั่ง กระชับ
• ช่วยปกป้องผิว เพิ่มความสามารถเก็บกักความชุ่มชื่นของผิวหน้า ชะลอริ้วรอย
• ทำหน้าที่เหมือนฟิลม์ ในการปกป้องและเคลือบผมให้เรียบสวย จัดทรงง่าย มีน้ำหนัก ช่วยให้ผมขาดเสียกลับมาแข็งแรงเงางามมีน้ำหนัก